เบื้องต้นการตรวจเช็ค ภาพเส้นทางการชาร์จ ที่ควรตรวจเช็คSub board

เส้นทางการตรวจเช็ค บน Main Board หลัก



เสริมความรู้เล็กๆน้อย สำหรับเรื่องระบบการชาร์จไฟแบตเตอร์รี่คร่าวๆนะครับ
การชาร์จเร็ว (Fast Charging) ในสมาร์ทโฟน เป็นกระบวนการที่ต้องการการจัดการพลังงานและกระแสไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น โดยหลักการทำงานของระบบชาร์จเร็วจะประกอบด้วยขั้นตอนและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จ ดังนี้:
1. แหล่งจ่ายไฟ (Power Source)
- ในการชาร์จเร็วจะต้องใช้เครื่องชาร์จที่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว โดยจะให้แรงดันไฟฟ้า (Voltage) และกระแสไฟ (Current) ที่สูงกว่าการชาร์จปกติ เช่น ใช้แรงดัน 9V หรือ 12V แทนที่ 5V ซึ่งทำให้กระบวนการชาร์จสามารถเติมพลังงานให้กับแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น
2. ตัวแปลงแรงดัน (Voltage Step-up)
- อุปกรณ์ชาร์จเร็วส่วนใหญ่จะมีวงจรที่สามารถปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการของแบตเตอรี่ในแต่ละช่วง โดยเริ่มต้นจะจ่ายไฟที่แรงดันต่ำกว่าแล้วค่อย ๆ ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็ม เพื่อให้การชาร์จมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
3. การควบคุมกระแส (Current Control)
- ในระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่จะมีการควบคุมกระแสไฟฟ้า (Current) โดยที่ในตอนแรกระบบชาร์จเร็วอาจจะใช้กระแสสูงเพื่อเติมพลังงานให้เร็ว แต่เมื่อแบตเตอรี่เริ่มใกล้เต็ม กระแสจะถูกลดลงเพื่อป้องกันการชาร์จเกิน (Overcharge) ซึ่งอาจจะทำให้แบตเตอรี่เสียหาย
4. การใช้เทคโนโลยีการชาร์จพิเศษ
- Qualcomm Quick Charge: ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้เร็วขึ้นโดยการปรับแรงดันไฟฟ้าให้สูงขึ้นถึง 9V หรือ 12V และกระแสไฟที่เพิ่มขึ้นตามสมาร์ทโฟนที่รองรับ
- USB Power Delivery (PD): ใช้ในการจ่ายพลังงานโดยสามารถรองรับการส่งแรงดันไฟฟ้าหลายระดับ (สูงสุดถึง 20V) ซึ่งเหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป
- VOOC (Voltage Open Loop Multi-step Constant Current Charging): ระบบการชาร์จที่พัฒนาโดย OPPO ใช้กระแสไฟสูง 5V/4A เพื่อให้ชาร์จเร็วกว่า
5. การตรวจสอบและป้องกันการเกิดความร้อน (Thermal Management)
- การชาร์จเร็วทำให้เกิดความร้อนมากขึ้น ดังนั้นระบบจะมีการตรวจสอบอุณหภูมิของแบตเตอรี่และวงจรการชาร์จเพื่อป้องกันไม่ให้มีความร้อนสูงเกินไป หากอุณหภูมิสูงเกินกำหนด การชาร์จจะถูกชะลอหรือหยุดชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสียหาย
- นอกจากนี้ อุปกรณ์บางรุ่นยังมีการใช้ระบบระบายความร้อน เช่น ระบบระบายความร้อนจากของเหลว (Liquid Cooling) หรือวัสดุระบายความร้อน (Heat Pipe) เพื่อลดอุณหภูมิในระหว่างการชาร์จ
6. การป้องกันแบตเตอรี่ (Battery Protection)
- สมาร์ทโฟนจะมีระบบป้องกันการชาร์จเกินและการปล่อยกระแสไฟที่เกินขีดจำกัดที่ปลอดภัยของแบตเตอรี่ เช่น หากมีการตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับแรงดันหรือกระแสไฟที่ไม่เหมาะสม ระบบจะหยุดการชาร์จทันที
7. การตรวจสอบและควบคุมการชาร์จ (Charging Algorithm)
- โทรศัพท์มือถือจะมีการใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมการชาร์จ ที่สามารถตรวจจับสถานะต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความจุแบตเตอรี่ และความเร็วในการชาร์จเพื่อปรับแต่งการชาร์จให้เหมาะสมที่สุด เช่น การลดกระแสในช่วงที่แบตเตอรี่ใกล้เต็ม
8. ระยะเวลาการชาร์จ
- เมื่อระบบชาร์จเร็วทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สมาร์ทโฟนจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 50% หรือ 80% ได้ภายในเวลาเพียง 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้และขนาดของแบตเตอรี่
สรุป:
การชาร์จเร็วในสมาร์ทโฟนต้องการระบบและเทคโนโลยีหลายส่วนเพื่อให้สามารถเพิ่มพลังงานได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการปรับแรงดันไฟ กระแสไฟ และควบคุมอุณหภูมิให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการนี้