ความร้อนโทรศัพท์มือถือ

เกร็ดความรูเรื่องระบบระบายความร้อมโทรศัพท์มือถือ เอาไวสังเกตุเครื่องตังเองนะครับจะได้ไม่เสียเยอะ

แนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นนะครับ
1. ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น

  • การเปิดแอปฯ มากเกินไปหรือแอปฯ ที่ทำงานเบื้องหลังจะทำให้การใช้งาน CPU สูงขึ้น ส่งผลให้เครื่องร้อนเร็ว
  • เข้าไปใน Settings > Apps แล้วปิดแอปฯ ที่ไม่ใช้งาน หรือใช้ฟีเจอร์ Force Stop เพื่อหยุดการทำงานของแอปฯ ที่ทำงานเบื้องหลัง

2. อัปเดตซอฟต์แวร์

  • บางครั้งการที่เครื่องร้อนเกินไปอาจเกิดจากบั๊กหรือข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์เก่า การอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและอาจแก้ไขปัญหานี้ได้
  • ไปที่ Settings > Software Update เพื่ออัปเดตเครื่อง

3. ลดความสว่างของหน้าจอ

  • หน้าจอที่สว่างมากจะทำให้การใช้พลังงานสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โทรศัพท์ร้อน
  • คุณสามารถปรับความสว่างของหน้าจอลงหรือเปิดโหมด Auto Brightness เพื่อปรับแสงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม

4. ปิดการเชื่อมต่อที่ไม่ใช้

  • การเปิด Wi-Fi, Bluetooth, GPS หรือการเชื่อมต่ออื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน จะทำให้มือถือทำงานหนักขึ้น
  • ควรปิดการเชื่อมต่อที่ไม่ได้ใช้งาน โดยไปที่ Settings > Connections และปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น

5. หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักในสภาพแวดล้อมที่ร้อน

  • หากใช้งานโทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนเกินไป (เช่นกลางแดด หรือในห้องที่มีอุณหภูมิสูง) โทรศัพท์อาจจะร้อนขึ้นได้
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป

6. ล้างแคชของแอปฯ

  • บางครั้งแคชที่สะสมจากการใช้งานแอปฯ มากเกินไปอาจทำให้ระบบทำงานหนักและเครื่องร้อน
  • เข้าไปที่ Settings > Storage > Cached Data แล้วทำการล้างแคช

7. ตรวจสอบกรณีมีแอปฯ ที่ใช้พลังงานสูง

  • หากมีแอปฯ ที่ทำให้เครื่องร้อน ควรตรวจสอบว่าแอปฯ ไหนใช้พลังงานมากสุด โดยไปที่ Settings > Battery แล้วดูว่าแอปฯ ไหนกินแบตฯ เยอะและอาจจะทำให้เครื่องร้อน

8. เปลี่ยนเคสโทรศัพท์

  • เคสที่หนาเกินไปหรือวัสดุที่ไม่ระบายความร้อนได้ดีอาจทำให้โทรศัพท์ร้อนมากขึ้น
  • ลองถอดเคสออกในขณะใช้งานที่ต้องการความร้อนต่ำ หรือเลือกเคสที่ช่วยระบายความร้อนได้ดี

9. ตรวจสอบแบตเตอรี่

หากแบตเตอรี่เสื่อมมาก ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องร้อน การตรวจสอบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ (ในกรณีที่เป็น Android สามารถดูได้จาก Settings > Battery > Battery Health)

หมายเหตุ


หากทำตามข้อแนะนำเหล่านี้แล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อาจต้องพิจารณาการพาไปซ่อมที่ศูนย์บริการหรือช่างมืออาชีพเพื่อตรวจสอบสาเหตุที่ลึกซึ้งกว่า เช่น ปัญหาฮาร์ดแวร์ที่อาจเกิดขึ้น.

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *